อุตสาหกรรมกัญชายังคง Get High ดึงดูดนักธุรกิจจากทุกวงการทั้งหน้าใหม่และเก่าเข้ามาลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงบรรดาคนดังในแวดวงกีฬาและบันเทิงฮอลลีวูดด้วย
เนื่องจากในสหรัฐฯ เริ่มยอมรับ “กัญชา” ว่าเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดหนึ่งแล้ว (หลังจากถูกสร้างภาพลักษณ์ว่าเป็นยาเสพติดต้องโทษ มีข้อเสียมากกว่าดีจากการโฆษณาและหนังชวนเชื่อที่เผยแพร่กล่อมประสาทผู้ชมมาหลายสิบปี) และปัจจุบันกัญชาสามารถใช้ในทางการแพทย์ได้แล้วใน 36 รัฐ และเพื่อสันทนาได้แล้วใน 18 รัฐ อย่างถูกกฎหมาย แต่ต้องเป็นผู้ที่มีอายุมากกว่า 21 ปีเท่านั้น
ภาพลักษณ์ของ “กัญชา” ที่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นนี้ ก็ทำให้เกิดกระแสกัญชา พืชชนิดนี้ถูกนำไปใช้ในแทบทุกอุตสาหกรรมแล้ว กลายเป็นหนึ่งในกระแสหลักของสังคมอเมริกันและในสังคมของหลายประเทศทั่วโลก และยิ่งมีคนดังมากมายตบเท้าเข้าสู่แวดวงธุรกิจกัญชา ไม่ว่าจะนักกีฬา นักแสดง และนักร้อง ก็ยิ่งทำให้กัญชาได้รับความสนใจและนิยมใช้กันแพร่หลายมากขึ้น
แต่คนมีชื่อเสียงคนใดบ้างล่ะ? ที่ตบเท้าเข้ามาร่วมวงทำธุรกิจกัญชาและจำหน่ายหรือให้บริการอะไรเกี่ยวกับกัญชาบ้าง? ตาม WeedHub ไปดูกันเลย!
1. จัสติน บีเบอร์ (Justin Bieber)
“จัสติน บีเบอร์” เป็นคนดังในวงการฮอลลีวูดคนล่าสุดที่เข้ามาลงทุนในธุรกิจกัญชา หลังจากสนใจและชื่นชอบผลิตภัณฑ์กัญชามาตั้งแต่อายุ 12-13 ปี และเริ่มมาสนใจในเชิงธุรกิจเมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้สักระยะหนึ่งแล้ว สอดคล้องกับภาพของปาปารัสซีที่มักจับภาพของเขาได้ที่ร้านขายกัญชาในรัฐแคลิฟอร์เนียบ่อย ๆ
หากจะถามว่า “บีเบอร์” ชอบกัญชามากขนาดไหน? ก็ถึงขนาดแต่งเป็นเนื้อเพลงได้ “I got my peaches out in Georgia; I get my weed from California.” ซึ่งปรากฎอยู่ในเพลง “Peaches” ที่ฮิตติดชาร์จบิลบอร์ดในสหรัฐฯ อย่างยาวนาน
และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองความสำเร็จของเพลงดังกล่าว “บีเบอร์” ได้จับมือกับบริษัท “Palms” ผลิตสินค้าร่วมกันเป็นกล่องแพคตัวกรองและจ๊อยท์สำเร็จรูป (กระดาษกัญชาแบบม้วนก่อนรีด) พร้อมไฟแช็กประทับตราคำว่า “Peaches” จำหน่ายในราคากล่องละ 32 ดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 1,100 บาท
อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์กัญชานี้จะวางจำหน่ายเฉพาะในรัฐที่กัญชาได้รับการรับรองว่าเป็นพืชถูกกฎหมายทางการแพทย์และสันทนาการเท่านั้น ได้แก่ รัฐแคลิฟอร์เนีย รัฐเนวาดา รัฐแมสซาชูเซตส์ และรัฐฟลอริดา
2. เบลล่า ธอร์น (Bella Thorne)
อดีตดาราสาวสวยชื่อดังของค่ายดิสนีย์ “เบลล่า ธอร์น” นอกจากจะสร้างเสียงฮือฮาด้วยการร่วมเป็นสมาชิกเว็บไซต์ OnlyFans แล้ว เธอยังสร้างเรื่องทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ อย่างต่อเนื่อง ด้วยการเป็นดาราที่ลงทุนในธุรกิจกัญชา โดยเปิดตัวผลิตภัณฑ์กัญชาภายใต้ชื่อแบรนด์ว่า “Forbidden Flowers” เมื่อปี 2019 ซึ่งร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ธุรกิจ “Glass House Farms”
ผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายภายใต้แบรนด์นี้ คือตัวกรองและจ๊อยท์สำเร็จรูป ซึ่งมีหลายคอลเลกชันให้เลือกซื้อมากมาย เช่น Midnight Thornberry (indica), Cosmic Wolf (sativa) and Rosé Lemonade (hybrid) และมีวางจำหน่ายตามร้านขายกัญชาทั้งหมด 17 แห่งในสหรัฐฯ
3. คอร์ทนีย์ คาร์ดาเชียน (Kourtney Kardashian)
“คอร์ทนีย์ คาร์ดาเชียน” พี่สาวคนโตสุดของตระกูลคาร์ดาเชียน ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในวงการฮอลลีวูด ได้เผยออกสื่อว่าชื่นชอบผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจาก CBD จึงได้ลงทุนในธุรกิจกัญชา ด้วยการก่อตั้งแบรนด์ผลิตภัณฑ์ความงาม “Poosh” ร่วมมือกับ “Hora Skin Care” แบรนด์ผลิตภัณฑ์ความงามที่มีสารสกัดจาก CBD ชื่อดังในวงการกัญชาอยู่แล้ว มาช่วยสร้างผลิตภัณฑ์จากสารสกัด CBD ใหม่
โดยผลิตภัณฑ์ตัวแรกที่เธอจำหน่ายภายใต้แบรนด์ “Poosh” คือ “Hyaluronic Halo + CBD” เซรั่มไฮยาลูโรนิกที่มีส่วนผสมของวิตามินนานาชนิด เช่น วิตามินซี ช่วยกระตุ้นผิวให้กระจ่างใสและปรับสีผิวให้เท่ากัน
4. สนูป ด็อกก์ (Snoop Dogg)
“สนูป ด็อกก์” เจ้าพ่อแรปเปอร์ผิวสีผู้นี้ ได้รับการยกย่องว่าเป็นตำนานในเรื่องของกัญชา เพราะเขาชอบกัญชามาก ถึงขั้นผลิตสินค้ามากมายเกี่ยวกับกัญชาของตัวเอง ภายใต้แบรนด์ของตัวเองที่มีชื่อว่า “Leafs by Snoop” ทั้งกระดาษโรล เคสโทรศัพท์ที่สามารถจุดไฟได้ ที่บดกัญชาและคุกกี้กัญชา แถมยังมีสูตรกัญชาเป็นของตัวเองด้วย
5. มาร์ธา สจ๊วต (Martha Stewart)
“มาร์ธา สจ๊วต” พิธีกรสอนทำอาหารชื่อดังของสหรัฐฯ ก็เหมือนกับศิลปินฮิปฮอปชื่อดัง “สนูปด็อกก์” เพื่อนรักของเธอ ที่หันมาลงทุนในธุรกิจกัญชา โดยจับมือกับบริษัท “Canopy Growth” ของแคนาดา เพื่อผลิตสินค้าจากกัญชาในชื่อแบรนด์ว่า “Martha Stewart CBD”
ผลิตภัณฑ์กัญชาของเธอทั้งหมดเป็นอาหารผสมกัญชา หรือมีสารสกัด CBD เช่น น้ำมันกัญชง แคปซูลน้ำมันกัญชาและเยลลี่ผสมกัญชารสส้มและเบอร์รี
6. กวินเน็ธ พัลโทรว์ (Gwyneth Paltrow)
“กวินเน็ธ พัลโทรว์” นักแสดงสาวสวยผมบลอนด์ผู้นี้ เป็นดาราฮอลลีวูดคนล่าสุดที่ผันตัวเองมาเป็นเจ้าของธุรกิจ โดยตั้งบริษัทของตัวเองชื่อว่า “Goop” และเธอยังดำรงตำแหน่งซีอีโอของบริษัทนี้ด้วยเช่นกัน และในฐานะประธานบริษัทก็ได้ทุ่มเงินลงทุนให้กับบริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มผสมกัญชา ชื่อว่า “Cann” ตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา
7. ไมค์ ไทสัน (Mike Tyson)
“ไมค์ ไทสัน” แชมป์มวยโลกเฮฟวี่เวท 3 สถาบัน หลังจากแขวนนวมได้หันมาจับธุรกิจกัญชา ด้วยการซื้อที่ดินกว่า 100 ไร่ บริเวณใกล้เคียงอุทยานแห่งชาติ “เดธ วัลลี” เปิดรีสอร์ตกัญชาให้คนได้เข้ามาพัก และใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาของเขาเองที่มีชื่อแบรนด์ว่า “Tyson Ranch” ซึ่งเป็นกัญชาระดับพรีเมียม ซึ่งผลิตโดยบริษัทที่ตั้งใหม่ของเขาเอง “Tyson Holistic” นอกจากมีผลิตภัณฑ์กัญชาเพื่อใช้ผ่อนคลายแล้ว ยังมีกัญชาไว้สำหรับผสมอาหารด้วย
ลูกค้าส่วนใหญ่กว่า 90 เปอร์เซ็นต์เป็นวัยรุ่นที่ชอบความสนุกสนาน โดยเฉพาะตามงานเทศกาลดนตรี ซึ่งเจ้าตัวจะนำสินค้าไปจำหน่ายในพื้นที่โดยไม่ผิดกฏหมาย ให้กับเด็กที่บรรลุนิติภาวะแล้วได้ใช้
8. เจย์-ซี (Jay-Z)
“เจย์-ซี” เจ้าพ่อเพลงฮิปฮอป หลังจากเป็นศิลปินโด่งดังถึงขีดสุดแล้ว เขาก็หันมาจับงานเบื้องหลังด้วยการเป็นโปรดิวเซอร์เพลงให้เพื่อน ๆ นักร้องในวงการฮอลลีวูด รวมถึงเป็นนักธุรกิจเจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์จากกัญชา “Monogram” โดยฟอร์มทีมกับบริษัท “Caliva” และ “Left Coast Ventures” เพื่อผลิตสินค้าจากกัญชาเกรดไฮเอนด์โดยเฉพาะ
สำหรับแบรนด์ “Monogram” เป็นผู้จัดจำหน่ายกัญชา 4 สายพันธุ์ที่นิยมใช้ในรัฐแคลิฟอร์เนียมากที่สุด ในรูปแบบผลิตภัณฑ์จ๊อยท์สำเร็จรูปและดอกของกัญชา
9. ดีเจคาเล็ด (DJ Khaled)
ขณะที่โปรดิวเซอร์ดังอย่าง “ดีเจ คาเล็ด” ก็ไม่น้อยหน้าเพื่อนในวงการฮอลลีวูด หันมาจับธุรกิจเกี่ยวกับกัญชาด้วยเช่นกัน โดยสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นศิลปินในวงการเพลงและวงการฮอลลีวูดที่ผลิตสินค้าจากกัญชาเพื่อกลุ่มคุณผู้ชายโดยเฉพาะ ในชื่อแบรนด์ว่า “Blesswell” โดยร่วมมือกับบริษัท “Endexx Corporation” ออกผลิตภัณฑ์ความงามดูแลผิวกายและใบหน้าหลากหลายแบบ
ได้แก่ น้ำมันบำรุงหนวดเครา ครีมโกนหนวด ครีมอาบน้ำ โฟมล้างหน้า มากส์หน้าสูตรและมอยส์เจอร์ไรเซอร์
11. เซธ โรเกน (Seth Rogen)
“เซธ โลแกน” เป็นนักแสดงตลกชาวแคนาดาที่มาโด่งดังในวงการฮอลลีวูดและแจ้งเกิดในละครตลกยอดนิยมในสหรัฐฯ ที่ชื่อว่า “Pineapple Express” และจากเรื่อง “Neighbors” ก่อนจะเป็นดาราฮอลลีวูดอีกคนที่ลงทุนในธุรกิจกัญชาเมื่อปีที่ผ่านมา (2019) โดยตั้งแบรนด์ “House Plant” ซึ่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์กัญชาเพื่อสันทนาการหลากหลายแบบ เช่น ดอกกัญชา จ๊อยท์สำเร็จรูป และเครื่องดื่มเกรปฟรุต เป็นต้น
ล่าสุดเมื่อเดือนมีนาคม 2021 แบรนด์กัญชาของเขาก็ได้จำหน่ายไลน์สินค้าใหม่ ได้แก่ ดอกไม้ ไฟแชกและที่เขี่ยบุหรี่
12. เดรค (Drake)
“เดรก” ศิลปินฮิปฮอปชาวแคนาดาที่ไปโด่งดังในวงการฮอลลีวูดของสหรัฐฯ เดินตามรอยรุ่นพี่ฮิปฮอปอย่าง “เจย์-ซี” มาติด ๆ โดยร่วมเปิดบริษัทดูแลสุขภาพด้วยกัญชา ชื่อว่า “More Life Growth” กับ “Canopy Growth Corp” บริษัทเกี่ยวกับกัญชายักษ์ใหญ่ของแคนาดา ซึ่งตัวบริษัทจะตั้งอยู่ในเมืองโตรอนโต รัฐออนแทรีโอของแคนาดา โดยเขาเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท 60 เปอร์เซ็นต์
และ “More Life Growth” จะเป็นเจ้าของโรงงานผลิตในเมืองสการ์โบโรห์ รัฐออนแทรีโอ ซึ่งได้รับอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุขแคนาดา (Health Canada) สามารถทำการเพาะปลูก แปรรูปและขายกัญชาได้ โดยสินค้าจากบริษัทของเดรคจะถูกจำหน่ายผ่านบริษัทพาร์ทเนอร์ Canopy Growth Corp
13. ลิล เวย์น (Lil Wayne)
แรปเปอร์ “ลิล เวย์น” ก็เป็นศิลปินในวงการเพลงแรปและฮิปฮอปที่สนใจกัญชา และหันมาทำธุรกิจเกี่ยวกับกัญชาไปพร้อมกับทำงานเพลงด้วย โดยได้ออกแบรนด์ผลิตภัณฑ์กัญชาชื่อว่า “Gkua” มีดอกกัญชามากหลากหลายสายพันธุ์จำหน่ายให้ผู้ใช้กัญชาได้เลือกซื้อ เช่น ดอกกัญชา (GKUA VIP, Hollygrove, Julius Caeser, Mendo Crumble, Mimosa และ Uproar)
กัญชาสกัดเข้มข้น THC สูง (Perfecta, Boom Box และ 3 Hour Tour) อุปกรณ์สูบกัญชาและจ๊อยท์สำเร็จรูป ที่สำคัญผลิตภัณฑ์กัญชาของเขาสามารถหาซื้อได้ทั่วไปตามร้านขายยาทั่วรัฐแคลิฟอร์เนีย
14. วิซ คาลิฟา (Wiz Khalifa)
แรปเปอร์ชื่อดัง “วิซ คาลิฟา” นอกจากจะทั้งร้อง ทั้งแต่งเพลง รวมถึงโปรดิวซ์เพลงอยู่เบื้องหลังให้กับศิลปินเพลงแรปและฮิปฮอปในวงการฮอลลีวูด เขายังผันตัวมาเป็นนักธุรกิจกัญชาด้วย โดยตั้งแบรนด์จำหน่ายกัญชาชื่อว่า “Khalifa Kush” จำหน่ายสายพันธุ์กัญชาชื่อเดียวกับแบรนด์ของเขา เริ่มจำหน่ายครั้งแรกในร้านขายกัญชา “River Rock” สาขาต่าง ๆ ในสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา
และเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2019 ธุรกิจกัญชาภายใต้แบรนด์ “Khalifa Kush” ก็เติบโตขึ้นกว่าเดิม ด้วยการทำธุรกิจกัญชาร่วมกับบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกที่ขึ้นชื่อเรื่องกัญชาอย่าง “Supreme Cannabis” ผลิตน้ำมันกัญชาจากสายพันธุ์ “Khalifa Kush” ของเขาเองให้กับผู้บริโภคชาวแคนาดา
15. คริสเตน เบล (Kristen Bell)
“คริสเตน เบล” นักแสดงสาวชาวอเมริกันชื่อดังแห่งวงการฮอลลีวูด แม้จะไม่ค่อยเห็นผลงานการแสดงของเธอในช่วงนี้เท่าไหร่ นั่นก็เพราะว่าเธอกำลังยุ่งอยู่กับการบริหารจัดการแบรนด์กัญชาของตัวเองที่ชื่อว่า “Happy Dance” ซึ่งจำหน่ายครีมบำรุงผิวผสมสาร CBD ที่เธอร่วมทำขึ้นมากับบริษัท “Cronos” ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐออนแทรีโอของแคนาดา
สำหรับครีมบำรุงผิวผสมสาร CBD จากกัญชาของแบรนด์ Happy Dance ก็มีให้เลือกสามแบบด้วยกัน คือ บอดี้บัตเตอร์ ราคา 1,000 บาท น้ำมันมะพร้าว ราคา 846 บาท และบาธบอม ราคา 500 บาท ที่สำคัญทั้งสามผลิตภัณฑ์ที่ว่านี้ประกอบด้วยสารสกัดจากกัญชา เชียหรือโกโก้ บัตเตอร์แบบจัดหนักจัดเต็มอีกด้วย
ที่มาข้อมูล: Hollywood Reporter, Indian Express, The Collective Cannabis, Celeb Stoner และ The Rolling Stone
3 Comments
For the reason that the admin of this site is working, no uncertainty very quickly it will be renowned, due to its quality contents.
Great information shared.. really enjoyed reading this post thank you author for sharing this post .. appreciated
Fantastic web site. Lots of useful information here. I am sending it to several friends ans also sharing in delicious. And obviously, thanks for your effort!